Planb — บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)
นักลงทุน : อาจารย์ครับ ช่วยผมวิเคราะห์หุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หน่อยได้ไหมครับ
อาจารย์ : ทำไมต้อง แพลน บี หรือครับ
นักลงทุน : อาจารย์ไม่น่าถามเลย ก็ผมติดดอยอยู่อะสิครับอาจารย์
อาจารย์ : เท่าไหร่หรอครับ
นักลงทุน : 6 บาทเองครับเบาๆ
อาจารย์ : ครับ แล้วทำไมถึงไปซื้อหุ้น แพลน บี มีเดีย ครับ
นักลงทุน : อ๋อ พอดี ผมไปเจอข่าวนี้ครับอาจารย์
อาจารย์ : อืมๆ แล้วมันดียังไงครับ
นักลงทุน : โห้ อาจารย์ก็ดูสิครับ รถเมล์มีตั้งเป็นพันๆ คันทั่วกรุงเทพฯ อันนี้เป็นแค่นำล่อง 550 คัน ถ้าเกิดว่ามัน work และบริษัท แพลน บี ขยายบริการนี้จริง ผมว่าสามารถทำกำไรได้มหาศาล
อาจารย์ : จะมหาศาลไม่มหาศาลเอาง่ายๆ เราดูแบบนี้นะ ครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรเท่าไร
นักลงทุน : 185.40 ล้านบาทครับ
อาจารย์ : สมมติเลยว่าทั้งปีกำไร 400 ล้านบาท ธุรกิจ wifi บนรถเมล์ใช้งบลงทุน 20 ล้านบาท สมมติว่าทำกำไรให้บริษัทปีละ 30 ล้านบาท ซึ่ง 30 ล้านบาทนี่เพียงแค่ 20% ของรถเมล์ทั้งหมดถูกไหมครับ
นักลงทุน : ถูกครับ
อาจารย์ : ทีนี้ถ้าเกิดว่าเราอยากรู้กำไรจากธุรกิจ wifi ทั้งหมดก็เอา 30 ล้านบาท ไปคูณ 5 เท่า ก็จะได้กำไรเพิ่มมาอีก 150 ล้านบาท
นักลงทุน : ครับ
อาจารย์ : ทีนี้เอา 150 ล้าน บวก 400 ล้าน จากกำไรที่เราคำนวณไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะได้ตัวเลขกำไรกลมๆ ที่ 550 ล้านบาท
นักลงทุน : ทีนี้เอามาหารจำนวนหุ้นเพื่อหากำไรต่อหุ้นถูกไหมครับ
อาจารย์ : ถูกครับ
นักลงทุน :
550 ล้านบาท หาร จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง 3,495 ล้านหุ้น = 0.157367 บาทต่อหุ้น
อาจารย์ : ครับทีนี้เอาไปหา นโยบายปันผลเพื่อที่จะคำนวณดูว่าราคาหุ้นควรอยู่ที่เท่าไร
นักลงทุน :
นโยบายปันผลอยู่ที่ 50% เท่ากับถ้าเราถือหุ้นบริษัทนี้ เราจะได้เงินปันผล หุ้นละ 0.157367 x 50% = 0.078683 บาท
อาจารย์ : เยี่ยมเลย ตอนนี้ผมเอาเงินไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3% เพราะฉะนั้นถ้าปันผลที่ 0.078683 บาท อย่างน้อยก็ต้องเป็น 3% ของราคาหุ้นถึงจะคุ้ม
นักลงทุน : ราคาหุ้น x เปอร์เซ็นต์เงินตอบแทนที่อยากได้ = เงินปันผล
เราได้ตัวเลขเงินปันผลแล้วที่ 0.078683 เรารู้เปอร์เซ็นต์เงินตอบแทนที่อยากได้แล้วที่ 3% อย่างนี้แก้สมการก็จะได้ราคาหุ้นถูกไหมครับ
อาจารย์ : ถูกครับ
นักลงทุน : 0.078683/3% = 2.62 บาทต่อหุ้น
หืม ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าครับอาจารย์
อาจารย์ : ไม่ผิดหรอกครับ ท่านคำนวณถูกแล้ว ราคา IPO ของ plan ถึงอยู่ที่ 2 บาทไงครับ
นักลงทุน : อ้อ อย่างนี้นี่เอง ผมทำอะไรลงไปนี่ ไปซื้อที่ 6 บาทได้อย่างไร
อาจารย์ : ก็ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆ เรียนรู้ไป ทีนี้เราลองไปดูคู่แข่งสิว่ามีรายได้เป็นอย่างไรและมีกำไรเท่าไหร่ มีโอกาสที่เราจะไปแย่งรายได้มาจากเขาอีกมากไหม
นักลงทุน : เท่าที่ผมรู้บริษัทที่ทำพวกโฆษณาก็มี MACO กับ VGI ครับ
อาจารย์ :
MACO กำไรครึ่งแรกของปี 2558 อยู่ที่ 85.26 ล้านบาท สมมติเลยว่าทั้งปีกำไร 200 ล้านบาท
ส่วน VGI
กำไรครึ่งปีแรกของปี 2558 อยู่ที่ 239.66 ล้านบาท แต่การจะแย่งเค้กมาจาก VGI นั้นผมว่ายากพอสมควร เพราะเขามีฐานเป็นการโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS
เพราะฉะนั้นสมมติเลยว่า PLANB แย่งเค้กมาจาก 2 บริษัทนี้ได้สัก 200 ล้านบาท กลายเป็นปีหน้ามีกำไร 750 ล้านบาท
750 หาร 3,495 ล้านหุ้น คูณนโยบายปันผล 50% หารอัตราดอกเบี้ย 3% ราคาหุ้นก็ยังอยู่แค่ 3.57 บาทเอง
นักลงทุน : โห้ ผมซื้อที่ 6 บาทไปได้อย่างไรกันนี่
อาจารย์ : อย่างพึ่งเสียใจไปครับลองดูรายชื่อผู้ถือหุ้น PLANB ซะก่อน
นักลงทุน : ทำไมหรือครับอาจารย์
อาจารย์ : มีนักลงทุนรายใหญ่จากอินโดนีเซียอยู่ด้วย ซึ่งฐานการเงินเขาอยู่ในขั้นสุดยอดมาก ถ้า PLANB ไปตั้งหลักปักฐานที่อินโดนีเซียได้หละก็ ผมว่าราคาตอนนี้ก็น่าจะถูกไป เพราะตลาดอินโดนีเซียนั้นใหญ่จริงๆ
นักลงทุน : ผมคงต้องบินได้ดูว่าอินโดนีเซียเขามีโฆษณา บิลบอร์ด-digital screens เยอะไหมแล้วหละครับอาจารย์
อาจารย์ :ท่านซื้อหุ้นไปเยอะขนาดนั้นเลยหรือ
นักลงทุน : ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็เยอะพอที่จะคุ้มในการบินไปดูความเป็นไปได้ครับ
อาจารย์ : ถ้าเป็นนักลงทุนจริงๆ การไปดูโอกาสของธุรกิจที่เราลงทุนไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีมากครับ
ด้วยรัก
พงศกร บุญวรเมธี